Advertisement

22.10.14

First Ride: 2015 BMW S1000RR ฉลามบกพันธุ์อัพเกรด เบาลง แรงขึ้น ฉลาดขึ้น เจ๋งขึ้นกว่าเดิม [CycleWorld]


หลังจากการเปิดตัวรถสปอร์ตพันซีซีอย่าง S1000RR ขึ้นเมื่อปี 2010 รถคันนี้ก็ทำสถิติดีทะลุกราฟ 
ฉายแสงเจิดจรัสด้วยสมรรถนะที่ดีเยี่ยม และระบบอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะที่ไม่เคยมีใครมีมาก่อน และในปี 2015 
การจู่โจมรอบใหม่จากเจ้าฉลามที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ก็กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ด้วยน้ำหนักตัวที่เบาลงถึง 9 ปอนด์ หรือ 4 กิโลกรัม 
พร้อมด้วยความละเอียดของตัวรถที่มากยิ่งขึ้น และฟังก์ชั่นอื่นๆ จาก Race Dev. ของ BMW


เครื่องยนต์ 999 ซีซี สี่สูบเรียงระบายความร้อนด้วยน้ำ ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาเพิ่มเติมทำให้ได้ม้าเพิ่มขึ้นมาอีก 6 ตัว
ทำให้มีแรงม้ารวมอยู่ที่ 199 แรงม้า ช่องอากาศเข้าหรือแอร์อินเทคได้รับการปรับขนาดให้สัดส่วนใหม่ แก้ไขในส่วนของแคม
เครื่องยนต์ วาล์วมีน้ำหนักเบาลง มีอัตราความเร็วที่ที่ขึ้นจากช่องอินเทคที่ใหญ่ขึ้น และแม้คุณจะซื้อมาเปลี่ยนใส่เป็น AR 
หรือ Akrapovic แต่รถคันนี้ก็ยังได้เปลี่ยนท่อไอเสียใหม่หมดด้วยน้ำหนักเบาลง 
และวางตำแหน่งใหม่ให้สูงขึ้นและใกล้สวิงอาร์มยิ่งขึ้น


ด้านการพัฒนาระบบช่วงล่างที่น่าสนใจที่สุดก็คือระบบ โช้คปรับไฟฟ้า Dynamic Damping Control(DDC)
ระบบที่ถูกพัฒนาและนำไปใช้ในรุ่น HP4 โดย Dynamic Package หรือรุ่น Dynamic มาพร้อมกับไฟเลี้ยว LED 
ระบบเกียร์ HP Gear Shift Assist Pro และระบบทำความร้อนที่ปลอกแฮนด์ 
ส่วนระบบ DDC จะถูกใส่มาในรุ่น Race Package ที่มีโหมด Pro Riding ระบบ Dynamic Traction Control 
และ Cruise Control โดยโหมด Pro Riding จะมาพร้อมกับฟังก์ชั่นเจ๋งๆ แบบใน HP4 อย่าง Launch Control หรือล็อครอบออกตัวและระบบจำกัดความเร็วในพิทเลน


การทดสอบ BMW S1000RR ปี2015 ที่สนาม Circuito de Monteblance ทางตอนใต้ของสเปนในรอบ World Press 
Launch รถที่ใช้ในการทดสอบนั้นใส่ฟังก์ชันการใช้งานมาแบบจัดเต็ม โดยระยะเวลา 20 นาที ในเซสชั่นแรกกับระยะทาง 2.44 ไมล์
รอบสนามและโค้งทั้ง 14 ในสภาพถนนที่เปียกจากฝน ช่วยให้ได้ลองทดสอบระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เข้ามาช่วยเรื่องความปลอดภัย
อย่างโหมดการขับขี่แบบ Rain ได้เป็นอย่างดี ตัวรถไม่ค่อยมีอาการแถหรือลื่นแม้จะเปิดคันเร่งออกจากโค้งอย่างหนักหน่วง 
ไฟสีเหลืองบนด้านซ้ายของแดชบอร์ดหรือเรือนไมล์ทำให้มั่นใจได้ว่าคุณมีระบบ DTC คอยดูแลอยู่ใกล้ๆ


และเมื่อพื้นสนามแห้งลงในขณะที่ยังมีเวลาเหลืออยู่ เลยทำให้มีเวลาได้ทดสอบถึงสมรรถนะและฟังก์ชั่นใหม่ๆ ของรถคันนี้แบบเต็มที่
BMW ได้พัฒนาซอฟต์แวร์อย่างโหมดการขับขี่ RR และผลก็คือความเนียนของระบบที่เราไม่รู้สึกว่าถูกรบกวน 
และระบบอัจฉริยะอย่าง DTC ระบบกันยกล้อ ระบบ ABS และระบบกันล้อหลังลอย ได้รับการปรับปรุงและคำนวนใหม่
ทำให้การเบรคนั้นเสถียรมากกว่าเดิม โหมดการขับขี่ทั้ง 3 โหมดยังคงมีติดรถมาให้ทั้ง Rain, Sport, Race 
แต่ในโหมด Pro นั้นจะใส่ฟังก์ชั่นเข้ามาอีก 2 ฟังก์ชั่นคือโหมด Slick และอีกหนึ่งฟังก์ชั่นใหม่ป้ายแดงอย่างโหมด User 
ที่ให้ผู้ใช้นั้นปรับตั้งค่าที่ต้องการได้เองทั้ง การตอบสนองต่อคันเร่ง แรงม้าสูงสุด เอ็นจิ้นเบรค ระดับการตอบสนองของ Traction Control ระบบเบรค Race ABS ระบบ Link Rear Brake และระบบกันล้อหลังลอย Anti-Rear Lift 
ที่ยังยืนอยู่บนพื้นฐานของโหมดการใช้งานเดิม ยกตัวอย่างเช่นเราปรับตั้งค่าการตอบสนองของเครื่องยนต์เป็นแบบโหมด Rain 
ในขณะที่เราปรับค่าอื่นๆไว้ที่โหมด Slick ฟังก์ชั่นนี้นั้นง่ายต่อการตั้งค่า เพียงแค่สลับค่าของระบบต่างๆ ให้อยู่ในโหมดที่เราต้องการแบบที่คุณเลือกได้เองและยังเปลี่ยนเป็นโหมด User ได้โดยที่ไม่ต้องกลับเข้าพิทด้วยซ้ำ


เช่นเดียวกับใน HP4 ในโหมด Slick และ User นั้นจะให้คุณปรับการตอบสนองของระบบ DTC +/- ได้ 7 ระดับ ที่ประกับด้านซ้าย
และยังอ่านค่าดูได้ง่ายๆ บนจอแดชบอร์ด LCD ที่บอกข้อมูลของค่าต่างๆ ไว้อย่างครบถ้วนที่สุด รวมถึงบอกองศาในการเข้าโค้งด้วย
ในขณะที่ระบบช่วงล่าง DDC จะถูกปรับอย่างอัตโนมัติตามสภาวะการขับขี่ โดยคำนวนออกมาให้เหมาะสมกับโหมดการขับขี่แต่ละแบบ อย่างเช่น ช่วงล่างจะนุ่มสุดที่โหมด Rain และเฟิร์มสุดที่โหมด และยังปรับค่ารีบาวด์แดมปิ้งหรือระยะยืดยุบของตัวโช้ค
 +/- ได้ถึง 7 ระดับ แยกส่วนกับการปรับค่าโช้คอย่างละเอียดเพื่อความเฉียบคมมากยิ่งขึ้น


หลังจากลองทดสอบการขับขี่ในโหมด Road และ Sport เวลาส่วนใหญ่ในการทดสอบก็หมดไปกับการเล่นอยู่กับโหมด Slick และ User พเอลองเล่นระบบ DTC ในหลายๆ รูปแบบ และการทดสอบในช่วงบ่ายทีมงานของ BMW ก็ได้จัดการเปลี่ยนยางจากยางเดิมติดรถอย่าง Pirelli Diablo Super Corsa SP เป็นยางสลิกของ Pirelli การยึดเกาะหนึบๆ ของยางตัวนี้ช่วยให้มีความมั่นใจมากขึ้นและมีการยึดเกาะของล้อหน้าที่ดียิ่งขึ้น โดยมีเพียงครั้งเดียวที่ไฟของระบบ DTC สว่างขึ้นบนแดชบอร์ด นั่นคือตอนที่ลองเสี่ยงปรับค่าการตอบสนองไว้ที่ระดับติดลบ ทำให้ล้อหลังสไลด์ตอนเปิดคันเร่งออกจากโค้งและล้อหน้าก็ยกออกสู่ทางตรงซึ่งคงเป็นเรื่องปกติ


สำหรับการพัฒนาและฟังก์ชั่นใหม่ๆ ที่ใส่เข้ามาใน BMW S1000RR ปี2015 สิ่งที่เจ๋งเด็ดที่สุดสำหรับการทดสอบครั้งนี้คือระบบเกียร์ HP Gear Shift Assist Pro ที่ให้ความนุ่มนวลในการงัดเกียร์ขึ้นโดยไม่ต้องใช้คลัทช์ และยังทำงานได้อย่างเหลือเชื่อสำหรับออโต้บลิฟในการตบเกียร์ลง ทำให้การพุ่งเข้าสู่โค้งไม่เคยง่ายขนาดนี้มาก่อน คุณเพียงปิดคันเร่งมุ่งสมาธิไปที่การรักษาแรงเบรคที่มั่นคงและตบเกียร์ลง ผลที่ออกมาก็คือการตบเกียร์ลงอย่างนุ่มนวลด้วยความแม่นยำดั่งนาฬิกาของชาว Bavarian


ทาง Cycle World เคยให้ BMW S1000RR เป็นสุดยอดรถแห่งปี 2010 และตอนนี้รถคันนี้ก็มีวิธีที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนจะต้องตายแต่ก็เป็นความรู้สึกที่สุดยอดรอคุณอยู่





SPECIFICATIONS

ENGINE TYPE: Water-cooled in-line four-cylinder
DISPLACEMENT: 999cc
BORE & STROKE: 80.0 x 49.7mm
HORSEPOWER: 199 hp at 13,500 rpm
TORQUE: 83 lb.-ft. at 10,500 rpm
COMPRESSION RATIO: 13.0: 1
VALVE ACTUATION: DOHC
VALVES PER CYLINDER: 4
THROTTLE VALVE: 48mm
TRANSMISSION: six-speed
CLUTCH: oil-bath, multi-disc slipper clutch
FRAME: aluminum bridge, engine self-supporting
FRONT SUSPENSION: inverted 46mm fork, adjustable preload,
 bump and rebound damping
REAR SUSPENSION: aluminum double-strut swingarm with central spring strut, 
          adjustable preload, bump and rebound damping
SUSPENSION TRAVEL: 4.7 in. front and rear
CASTER: 3.80 in.
WHEELBASE: 56.1 in.
STEERING HEAD ANGLE: 66.5º
FRONT BRAKES: twin floating 320mm discs, four-piston fixed calipers
REAR BRAKE: single 220mm disc, single-piston floating caliper, BMW Race ABS
WHEELS: aluminum, 17 x 3.5 in. front, 17 x 6.00 in. rear
TIRES: 120/70ZR-17 front, 190/55ZR-17 rear
LENGTH: 80.7 in.
SEAT HEIGHT: 32.1 in.
CLAIMED WET WEIGHT: 449.8 lb.
FUEL TANK CAPACITY: 4.7 gal.



ที่มา: CycleWorld