จริงนะนายประเทศไทยเราก็โดนไคจูบุกกับเขาเหมือนกัน
คิดว่าเท่ใช่ไหมล่ะ ใครที่เคยดูภาพยนตร์เรื่อง Pacific Rim ที่เข้าฉายเมื่อช่วงเดือน กรกฎาคมปีก่อน
น่าจะจำฉากอาณานิคมหรือชุมชนแออัดในฮ่องกงที่อยู่อาศัยกับซากของไคจูได้
พี่ไทยเราเองก็เป็นแบบนั้นล่ะครับ อาศัยอยู่กับซากของไคจูโดยที่ไม่ได้เกรงกลัวความอันตรายของสารพิษ
ที่เกิดจากปรากฎการณ์ Kaiju Blue ที่จะเกิดขึ้นหลังไคจูตายอย่างที่เราเห็นกันในภาพยนตร์
แล้วไคจูมาไทยได้ยังไง คาดว่าน่าจะเดินจากเกาะกวมมาทางฝั่งเวียดนามตัดเข้าลาวแล้วเข้าไทย
อันนี้น่าจะเป็นเส้นทางที่ตรงที่สุดแล้ว
ที่ญี่ปุ่นเองก็เช่นกัน น่าจะรู้กันอยู่แล้วว่าญี่ปุ่นเคยโดนไคจูบุกแน่นอน
จากฉากที่เล่าเรื่องราวของ มาโกะ โมริ นักขับคนใหม่ที่มาขับ ยิปซี เดนเจอร์คู่พระเอก
แล้วผมรู้มาจากไหน
พอดีช่วงนี้ว่างงานครับ สังเกตได้จากอัพบล็อกบ่อยๆ เลยอยากหาอะไรอ่าน
แล้วเราก็เลยสะกิดขึ้นมาว่าอยากท้าทายตัวเองด้วยการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ
ดังนั้นอีเล่มนี่ล่ะน่าจะง่าย เรื่องแต่งที่มาจากหนังเอ๊ะๆ
แต่ไม่ใช่อย่างที่คิดครับ ซื้อมาพักใหญ่ยังอ่านถึงตอนที่พระเอกมาถึงฐานที่ฮ่องกงเอง
อาจด้วยความอ่านช้า ขี้เกียจอ่าน บลาๆ
อีกอย่างหนึ่งคือในหนังสือจะบรรยายอะไรต่างๆ อธิบายรายละเอียดที่เราไม่รู้จากภาพยนตร์ไว้เยอะมาก
ทั้งขั้นตอนการทำงานของหุ่นขับ ความลึกซึ้งของคู่นักบิน
ทำให้เรายิ่งเข้าใจมากขึ้นมาว่าทำไมพระเอกอย่าง แลลีย์ บักเก็ต ถึงไม่อยากล่องกับใครอีก
มีคนแซะว่าให้ลองแปลลงบล็อกอยู่เหมือนกัน สารภาพว่าคงไม่ทำเพราะไม่ได้แน่วแน่มุ่งมั่นขนาดนั้น
แต่ก็ไม่แน่ ไม่แน่นอน ฮาๆ
และตั้แต่เท่าที่อ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีเยเกอร์โผล่ออกมาเยอะกว่าในภาพยนตร์หลายตัวมาก
อย่างตอนที่ไคจูบุกทะเลกำแพงแห่งชีวิตที่อ่าวซิดนีย์
ถ้าจำไม่ผิดไคจูตัวนั้นน่าจะชื่อ มิวเทวอร์ หรืออะไรสักอย่าง ซึ่งเป็นคาเทกอลี่ย์เดียวกับไนฟ์เฮด
ได้สังหารเยเกอร์ไปถึงสองตัวก่อนจะถึงมือสไตร์คเกอร์ ยูเรก้า
แถมหนึ่งในสองตัวนั้นยังเป็นคนรู้จักของพระเอกด้วย
และยังได้อธิบายความต่างของซีรีย์หุ่นแต่ละมาร์คเอาไว้ด้วย
ฉะนั้นจึงพอได้ทราบว่า ยูเรก้านั้นโกงขนาดนั้น (แม้ในภาพยนตร์จะดูง่อยๆ ก็ตาม)
ใครที่สนใจลองไปหามาอ่านกันดูครับ เล่มละ 200 กว่าบาทเท่านั้น
ซึ่งเล่มที่ซื้อมาเป็นเล่มสุดท้ายที่คิโนะพารากอน ยังไงลองไปสอบถามกันดูครับ
ส่วนตัวผมว่า คุ้มค่า คุ้มราคา อ่านสนุก เจ๋งจริงๆ นะ แถมยังได้ฝึกภาษาด้วย
