Advertisement

20.5.13

"เปิดใจ" แล้วจะเห็น "สิ่งใหม่ๆ"


ผมว่าการที่เราจะเปิดรับอะไรสักอย่างเนี่ยเป็นเรื่องยากนะ ไม่่วาจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม
ทั้งๆ ที่มันทำให้เราได้เห็นมากขึ้น ได้รู้มากขึ้น ได้ยินมากขึ้น และมีความสุขมากขึ้น ผมคิดได้เมื่อสักครู่ตอนกำลังอ่านหนังสือเล่มหนึ่งอยู่
ว่าช่วงที่ผ่านมา ผมได้เปิดใจรับอะไรใหม่ๆ มากไหม เพราะรู้ตัวเองดีว่าเป็นคนไม่เปิดรับอะไรง่ายๆ
ยกตัวอย่างเช่น ผมฟังแต่เพลงจากวงที่ชอบหรือเพลงที่ชอบเท่านั้น ฟังวนอย่างนั้นจนเบื่อแต่ก็ยังฟังอยู่
นานๆครั้งถึงจะเข้า Youtube ไล่ฟังเพลงไปเรื่อยแล้วก็เพิ่งรู้ว่ามีเพลงเหล่านี้ด้วย
บางเพลงเจ๋งมาก ดนตรีสนุกมาก เราชอบมาก ก่อนหน้านี้เราไปอยู่ไหนมา หมกอยู่แต่สิ่งเดิมๆ มาตั้งนาน
นั่นหนึ่งเรื่อง


อีกเรื่องหนังสือเรื่องหนังสือ ทุกคนมีลักษณะการอ่านหนังสือที่ต่างกัน 
ผมเองก็จะอ่านเฉพาะหนังสือที่ผมรู้สึกว่าชอบ (พลิกๆ อ่านดูแล้วชอบ)
ไม่เคยคิดจะอ่านหนังสือของบรรดานักเขียนที่มีชื่อเสียงหลายๆ คน ในขณะที่หลายๆ ต่างชื่นชม ยกย่อง
นั่นยิ่งทำให้ผมไม่สนใจ
จนเมื่องานหนังสือเมื่อปลายปี 2555 ที่ผ่านมา ผมต้องไปทำงานอยู่แถวๆ บูธสำนักพิมพ์มติชน
ได้หนังมองหนังสือหลายๆ เล่มที่วางโชว์อย่างโดดเด่น ได้สัมผัสความรู้สึกของการอยู่ใกล้นักเขียนชื่อดัง
แต่เรากลับไม่สน และก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนถึงชื่นชอบขนาดนั้น
เย็ฯของการทำงานวันนั้นผมเลยหิ้วหนังสือของผู้ชายตาตี่คนหนึ่งกลับบ้าน 4 เล่ม แล้วก็เริ่มเสพย์
(ผมชอบคำนี้ครูเคยใช้คำนี้กับผมในขณะที่ผมกำลังนั่ง "เสพย์" บรรยากาศเคล้าชาอุ่นๆ ในร้านหนังสือเดินทาง)
ผมเริ่มเข้าใจว่าทำไมผู้คนถึงชอบเขา เขาใจว่าทำไมเขาถึงเป็นไอดอลของหลายๆ คน 
เข้าใจว่าทำไมหลายคนถึงแซวเขาว่าเป็น ณเดช ของวงการหนังสือ
และก็เริ่มรู้ตัวว่าผมโง่แค่ไหน
ผมชอบงานเขียนสไตล์นี้ชอบจนถึงขั้นเถียงกับเพื่อนสองเพศที่ไม่ชอบ
และไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่แนะนำให้เขาถึงชอบ เพราะเขาอ่านไม่เข้าใจ
ซึ่งผมไม่เห็นด้วย ผมว่าเขาเจ๋งจริงๆ เขารู้เยอะจริง เขาผ่านมาเยอะจริง เขาเปิดรับเยอะจริงๆ
นั่นคือสิ่งที่ผมสัมผัสได้หนังสือสือทุกเล่มที่ผมอ่าน รวมถึงเล่มที่อยู่ในมือของผมตอนนี้
ทีแรกผมคิดว่าเพื่อนคนนี้โง่มาก ที่ไม่เข้าใจเรื่องง่ายๆ อย่างนี้ ที่เรื่องยากๆ ล่ะทำเป็นเก่งเหลือเกิน
แต่พอมาคิดอีกที

เขาอาจยังไม่ได้ "เปิดใจ" อ่านก็ได้