ตั้งใจว่าจะทำตั้งแต่ตอนเห็นในเว็บนอกเมื่ออาทิตย์ก่อนแล้ว แต่ติดผลัดวันประกันพรุ่ง
เลยดองมาถึงตอนนี้ น่าจะถึงเวลาอันสมควรสักที เห็นเริ่มมีกระแสในบาง Fanpage ว่าอาจจะได้เห็นเจ้านี่วิ่งเล่นในไทย
 |
| ภาพจาก yume.vn |
ข้อมูลทั้งหมดแปลจาก www.motorcycle-usa.com ครับ พยายามแปลข้อมูลให้ครบถ้วนที่สุด
ใครที่สนใจก็ตามไปอ่านเพิ่มเติมกันได้เลย ข้อมูลแน่นเอี๊ยด
เห็นแว๊บแรก คาดว่าทุกคนคงคิดเหมือนผมว่า เจ้านี่มัน All New ชัดๆ หน้าตาไม่คุ้นเคยเลย
แตกต่างจาก CBR 600 2012 แทบจะโดยสิ้นเชิง เรียกได้ว่าจับแต่งองค์ทรงเครื่อง
ทาหน้าทาปากกันใหม่หมดเลยสำหรับเจ้า Honda CBR600RR 2013 คันนี้
ถึงแม้จะใช้เฟรมตัวถังแบบเดิม เครื่องยนต์แบบเดิม แต่ก็มีรายละเอียดหลายอย่างที่ปรับปรุงเข้ามา
2013 Honda CBR 600RR แฟริ่งด้านหน้านั้นเปลี่ยนใหม่หมดตั้งแต่ไฟหน้ากันเลยทีเดียว
ถึงแม้จะยังคงใช้เฟรมตัวถังแบบ Twin Spar Aluminum เหมือนเดิมก็ตาม
โคมไฟฮาโลเจนคู่หน้าแยกส่วนขนาดดูเล็กลงกว่าตัว 2012 หลบเข้าไปในแฟริ่งเล่นระดับนิดหน่อย
ขั้นด้วย ram-air หรือช่อง air intake (ช่องรับไอดีนั่นเอง) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรับเอาอากาศเข้าไป
 |
| ภาพจาก rigermagazine.com |
ต้องบอกว่าแฟริ่งที่ถูกออกแบบใหม่นั่น ไม่ได้ให้แค่ความสวยงามเท่านั้น
แต่ยังช่วยลดแรงฉุดลงถึง 6.5% เมื่อเทียบกับรุ่นพี่ปีก่อนหน้า แถมยังช่วยให้ควบคุมรถได้ดีขึ้น
ช่วยส่งผ่านลมที่จะเข้าปะทะกับตัวผู้ขับขี่ เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ได้การขับขี่ที่นุ่มนวลชวนฝัน
ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ใน RC213V รถแข่งในสนาม MotoGP ตัวปัจจุบันอีกด้วย
กระจกคู่หน้าโค้งมน เรียบๆ อาจดูเชยไปสำหรับบางคน
ในส่วนของเบาะนั่ง แบ่งเป็นสองตอนแยกคนขี่คนซ้อน ตามสไตล์บิ๊กไบค์สายพันธุ์สปอร์ต
ท่อเดียวออกหลังดีไซน์สุดเท่ (เห็นทีแรกผมยังตกใจ เท่ดีจังเลย)
ท่อเดียวออกหลังดีไซน์สุดเท่ (เห็นทีแรกผมยังตกใจ เท่ดีจังเลย)
ระยะห่างฐานล้ออยู่ที่ 1369.06 มม. ความสูงจากพื้นถึงเบาะคนขับเท่ากับ 820.41 มม.
ถังน้ำมันจุได้ถึง 21.84 ลิตร (4.8 แกลลอน)
2013 Honda CBR 600RR มาพร้อมเครื่องยนต์สี่สูบเรียง (Inline-Four) 16 วาล์ว 599 ซีซี. ระบบความร้อนด้วยน้ำ
ซึ่งเป็นตัวเดิมที่ใช้ที่ CBR 600 2012
ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชักอยู่ที่ 67.0 x 42.5 มม. อัตราส่วนกำลังอัด 12.1:1
จ่ายน้ำมันด้วยระบบ Dual Stage Fuel Injection ง่ายๆ ก็คือหัวฉีดคู่นั่นเอง
ระบบเกียร์ 6 ระดับ ส่งกำลังด้วยระบบคลัทช์เปียกแบบหลายแผ่นซ้อนกัน ขับเคลื่อนชุดโซ่สเตอร์ 16/42
ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นช็อคอัพ Showa ขนาด 41 มม. ที่มีขนาดกระบอกสูบที่ใหญ่ขึ้น
ปรับได้ถึง 3 ระดับ ด้านหลังเป็นระบบกันสะเทือนแบบ Pro Link
กับช้อคอับแก๊ส Showa ปรับได้ 3 ระดับเหมือนกับช็อคอับคู่หน้า
ระบบห้ามห้ามล้อหน้าด้านเป็นดิสก์เบรคคู่ขนาด 310 มม. คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ
ด้านหลังเป็นดิสก์เบรคขนาด 220 มม. คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ
สรุปแล้ว มีอะไรที่เปลี่ยนไปล่ะ งั้นไล่มาให้อ่านอย่างต่อเนื่องเลยแล้วกันครับ
ram-air (ช่อง air intake) ด้านหน้ามีขนาดใหญ่ขึ้นเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดเอาอากาศเข้าสู่เครื่องยนต์มายิ่งขึ้น
พร้อมด้วย ECU ที่ถูกอัพเกรดให้ดียิ่งขึ้น ประสานการทำงานกับระบบหัวฉีด PGM-DSFI (Program Dual Stage Fuel Injection)
เพิ่มประสิทธิภาพการส่งกำลังในช่วงรอบกลางให้ดียิ่งขึ้น และตอบสนองต่อแรงบิดในรอบสูง
ซึ่งทางทีมทดสอบรู้สึกถึงความแตกต่างในการตอบสนองต่อคันเร่งที่ดีขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าได้อย่างชัดเจน
ช่วยในการเข้าและออกโค้งได้เป็นอย่างดี การเปิดคันเร่งในช่วงออกโค้งทำให้ล้อหลังสปินผลักออกมา
อย่างกะ ดานี เปโดรซ่า ในสนาม Moto GP เลยทีเดียว
ทางด้านของระบบกันสะเทือน อาจต้องมีการปรับตามความเหมาะสมของแต่ละคน
แต่ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีทีเดียว กระบอกสูบขนาด 41 มม. คู่หน้า ทำหน้าที่ได้ดีพอๆ กับโมเดลก่อนหน้า
แต่รับแรงกระแทกได้นุ่มนวลยิ่งขึ้น ตอบสนองการขับขี่ได้เป็นอย่างดี
เวลาเข้าโค้ง ช็อคอับหน้า จะไม่จมลงมากเท่ากับในรุ่นก่อน ถึงแม้จะออกแรงกดลงในเวลาเข้าโค้ง
ก็ยังตอบสนองได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นสุดยอดระบบกันสะเทือนในรถคลาส 600 ซีซี เลยทีเดียว
แม้จะเทียบกับ ZX-6R, ZX-10R หรือ CBR1000RR ก็ตาม
2013 Honda CBR 600RR สเปคอเมริกานั้นจะแยกเป็นตัวไม่มี ABS และมี ABS ที่ขาซิ่งลุงแซมไม่ชอบเท่าไรนัก
เลยจับเอาตัว ABS ไปทดสอบในสนามด้วย ลองดูซิว่าระบบ ABS จะส่งผลในการขับขี่มากแค่ไหน
จะทำให้ผู้ขับขี่รำคาญหรือไม่ ซึ่งผลหลังจากการวิ่งทดสอบอยู่หลายรอบ
พยายามเบรคให้กระชั้นมากขึ้นเวลาเข้าโค้ง พยายามทำให้ล้อหน้าล็อคเพื่อปลุกเจ้า ABS ออกมา
แต่ก็ทำได้แค่ปลุกระบบ ABS ที่ล้อหลังให้ทำงานได้เท่านั้น
ซึ่งเจ้าระบบ ABS นี่จะทำงานในดีในสภาวะที่ถนนเปียกหรืออากาศเย็นจนถนนลื่น(บ้านเราไม่มีมั้ง)
 |
| ภาพจาก sportrider.com |
ระบบส่งกำลังเองก็ยอดเยี่ยมกระเทียมเจียวไม่แพ้กัน ถึงแม้ Honda จะไม่ได้ใส่สลิปเปอร์คลัทช์ (Slipper Clutch)
มาในเจ้า CBR 600RR คันนี้ เหมือนอย่างใน Yamaha R6 และ Suzuki GSX-R600
เพราะดูเหมือนว่าสลิปเปอร์คลัทช์ไม่ได้มีความจำเป็นสำหรับเจ้านี่เลยแม้แต่น้อย
การเชนจ์เกียร์ลงตอนเข้าโค้งที่ทำให้เกิดอาการล้อหลังแซงล้อหน้า หรือล้อฟรีนั้น
ดูเหมือนจะไม่มีให้เห็นใน CBR600RR คันนี้เลย ระบบเกียร์นั้นจัดการตัวเองได้ดีทีเดียว
ไม่ว่าจะบนถนนหรือในสนามก็ตาม ระบบส่งกำลังยังทำหน้าที่ตอบสนองแรงบิดได้อย่างดีเยี่ยม
ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากรถคันอื่นที่เคยขี่มา
 |
| ภาพจาก:600rr.net |
คงต้องย้ำกันอีกทีสำหรับ 2013 Honda CBR600RR ว่าเจ้านี่ไม่ใช่ All New
ถึงหน้าตาจะดู All New ม๊ากมาก แตกต่างจากตัวเก่าโดยสิ้่นเชิงก็ตาม
ส่วนราคาใน อเมริกานั้นเริ่มต้นที่ 11,490 $ สำหรับรุ่นไม่มี ABS มาพร้อมกับสีแดงและ Tri-Colour (แดงขาวน้ำเงิน)
และยังมี The Repsol Edition ที่ต้องจ่ายเพิ่มอีก 500 $ (11,990$)
ส่วนโมเดล ABS จะมีเฉพาะสีแดงมาในราคา 12,490$ เมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้ว
ยังถูกกว่า Kawasaki ZX-6R non-ABS ที่ราคา 11,499$ และ ABS Verion ที่ราคา 12,699$ อยู่ถึง 200$ เลยทีเดียว
คูณเรทเงินไทยที่ 30 บาทแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 344,700 บาท สำหรับ non-ABS และ 374,700 บาท สำหรับรุ่น ABS
ก็ไม่รู้ว่าถ้าเข้าไทยแล้วราคาจะอยู่ที่เท่าไร ไหนจะภาษีขูดเลือดซิบๆ อีก
แต่ก่อนที่จะคิดว่าราคาเท่าไร เอาเป็นว่าเข้าไทยให้ได้ก่อนแล้วกันนะ
เห็นมี Fanpage บางแห่งบอกว่า
มีข่าวหลุดว่าค่ายปีกจะมี 4 สูบ 600 ซีซี. เข้ามา ก็คงน่าจะเป็นตัวนี้
เห็นมี Fanpage บางแห่งบอกว่า
มีข่าวหลุดว่าค่ายปีกจะมี 4 สูบ 600 ซีซี. เข้ามา ก็คงน่าจะเป็นตัวนี้
หลังจากที่ค่ายเขียวจ๋อยกันไปใน Z800 และ ZX-6R ที่ยังริบรี่
ยังไงก็ฝากติชมผลงานด้วยนะครับ ที่จริงมีผลงานแปลของ YZF-R1 2013 อีกคันที่แปลไว้ตอนทำงาน
แต่ยังไม่สะดวกอัพเพราะไม่ได้ติดไฟล์มาด้วย ช่วงนี้หนีมาพักอยู่บ้านญาติแถบชานเมือง
ไม่ได้ติดอะไรมาด้วยเลย แต่อยากให้ Blog มีอะไรใหม่ๆ เจ๋งๆ บ้าง
ไว้ๆ ก็จะแปลรุ่นอื่นๆ มาฝากกันอีกครับ
ใครที่สนใจอ่านเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษก็ไปในตามนี้เลยนะครับ
