ก่อนจะไปเริ่มทดลองงานเมื่อวันจันทร์ผมนั่งลิสต์รายชื่อเรื่องที่อยากจะเขียนลง Blog ไว้
2 - 3 เรื่อง วันแรกที่ไปทดลองงานพี่เขาก็ให้เรานั่งดูหนังสือ ก็ได้เรื่องที่อยากจะเอามาฝากอีก
งานที่ว่านี้เป็นงานบริษัืทแห่งหนึ่งที่ผมอยากเข้าไปทำมาก
และค่อนข้างหวังเอาไว้เยอะ พี่ที่รู้จักก็บอกว่าเรานี้อยู่กันแบบพี่น้อง ผมยิ่งอยากเริ่มงานไวๆ
แต่พอไปได้หนึ่งวัน ก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ พอเข้าวันที่สองผมก็ไม่อยากทำงานที่นี้อีกแล้ว
ผมก็ไม่รู้ว่าสังคมคนทำงานเป็นแบบนี้นะ ทุกคนตัวใครตัวมันพอสมควร
เข้ามาในกองไม่มีใครทักใครสวัสดีใคร ถ้าไม่ใช่เรื่องงานก็แทบจะไม่มีใครคุยกับผมเลยถ้าผมไม่เป็นคนเริ่ม
ตอนเช้านี้ผมถึงกับมือไม้สั่นเพราะเครียดมาก จนได้ออกไปดูงานและกลับมาทำงาน
นี่ล่ะที่ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้น พอผมได้ทำงาน จนกระทั่งถึงเวลาเลิกงาน ทุกคนปิดคอมหยิบกระเป๋า แล้วเดินออกไป
ไม่มีใครบอกลาใคร ผมไม่ชอบเลย
วันนี้ก็เป็นวันที่สาม ผมก็ยิ่งรู้สึกแย่ไปใหญ่ในตอนเช้า พยายามไม่ตั้งแง่
แต่ตอนนี้สมองผมสั่งการอย่างเดียวว่า จงลาออก เราไม่ชอบที่นี้
ไม่ใช่ไม่ชอบงานนะ ผมไม่มีปัญหากับการทำงานเท่าไรเพราะเพิ่งเข้าไป
แต่เป็นปัญหากับบรรยากาศการทำงาน และเพื่อนร่วมงานมากกว่า
ผมจะรอดอาทิตย์นี้ไปได้รึเปล่าก็ยังไม่รู้ หวังว่าผมจะปรับตัวได้เร็วขึ้นกว่านี้
ไม่งั้นผมคงประสาทแตกกลับบ้านทุกวัน
สองสิ่งที่ทำให้ผมสู้คือแม่กับความที่ไม่อยากให้คนอื่นดูถูก อะไรวะอยู่ไม่ถึงอาทิตย์เลยออกละ
ผมเองก็ไม่รู้พรุ่งนี้จะเป็นยังไง แต่ถ้าไม่ไหวก็คงออก ไปทำงานห้างให้รู้แล้วรู้รอด
แต่ถ้าทนอยู่ที่นี้ได้หรือปรับตัวได้เร็ว ก็จะเป็นใบเบิกทางที่ดีสู่ที่อื่นๆ
อาจเพราะผมเคยทำงานที่สนุกสนาน ทุกคนคุยกันเฮฮาตลอดเวลาแม้งานจะหนักจะเหนื่อยมากก่อน
พอมาเจอสถานที่แห้งแล้งแบบนี้เลยช็อคก็เป็นได้
ตอนนี้เลยอยากกลับไปหางานหนักแต่สนุกนั้นมาก
อยากจะเดินไปบอกคนที่รับเราเข้ามาตลอดเวลาว่าขอออกก็ทำไม่ได้
ถ้าถึงวันศุกร์แล้วความรู้สึกแย่ๆ นี้คงอยู่ ตอนเย็นผมคงเดินไปหาพี่เขาแล้วบอกว่า "ผมขอออกนะครับ"