MSX 125 สองล้อรุ่นใหม่คู่ใจวัยโจ๋

น่าจะยังถือว่าใหม่ได้อยู่นะ สำหรับเจ้า MSX 125 จากค่ายปีกนกคันนี้

หลังจากเปิดตัวไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาพร้อมกับ CRF 250  Forza 300

 และก็เพิ่งวางขายตาม wing เล็กๆ ได้เดือนกว่าๆ

ตอนนี้ก็เริ่มมีให้เล็กบนถนนและตามที่จอดรถจักรยานยนต์บ่อยขึ้น

ผมเห็นเจ้านี่ครั้งแรกในเว็บ aphonda พอดีเข้าไปหาข้อมูลรถรุ่นอื่นนิดหน่อย

แต่ปรากฏว่า ว๊าวเลย!! จะเอา!! 

ไปดู clip โฆษณาก็กลายเป็นว่ายิ่งถอนตัวไม่ขึ้น

เฮ้ย!! มันเท่มากเลยอะพระเจ้าจอร์จจจจจ จะเอาสีแดงงง!!

เท่กว่า KSR อีก (แฟนๆ KSR อาจไม่เห็นด้วย)

ด้วยความที่ดีไซน์สวยเท่แบบนี้ ทำให้จากราคาเปิดตัวที่ตั้งไว้ที่ 66,000 บาทไทย

ขยับขึ้นไปไกลหลายขุมนัก ราคาปัจจุบันเท่าที่เช็คดูจะขายกันอยู่ที่ประมาณ

67,000 -70,000+++ บาท

คุณแพะ 67,000 นี่หามาจากไหน 68,000 ยังหายากเลย

ก็เป็นกลไกของตลาดเมื่อความต้องการมีสูงก็เลยแกล้งด้วยการปล่อยรถออกมาน้อยๆ 

เอ้ย ไม่ใช่!!

ร้านค้าก็เลยฉวยโอกาสขึ้นราคา ซึ่งทาง aphonda ก็ควบคุมอะไรไม่ได้เลย

ปั่นกันสนุกสนาน

 เหมือนตอน Zoomer-X ที่ขึ้นไปเเตะๆ 60,000+ จนตอนนี้กลายเป็นมอไซค์ฟรีดาวน์ไปแล้ว

นักวิเคราะห์ทั้งหลายคาดว่าอาจใช้เวลาอีกสัก 2-3 เดือนกว่าราคาจะทรงตัว

คนที่รอให้ราคานิ่งแล้วค่อยซื้ออาจต้องรอกันสักหน่อย

ส่วนใครที่ใจร้อน! มีเงินในกระเป๋า! จะเอาให้ได้! พุ่งตรงไปหาดีลเลอร์!

ก็ใช่ว่าดีลเลอร์จะมีรถให้

มีข่าวโคมลอย มโห เข้าทรงต่างๆ นาๆ เช่นว่า

"ทาง aphonda หยุดสายการผลิตของ MSX 125 เพื่อมาผลิต Forza 300"

"จริงแล้ว aphonda มีรถในโกดังเยอะเลยแต่กั๊กรถไว้ปล่อยให้ดีลเลอร์แค่เดือนละ คันสองคัน"
(มีข้อมูลจากพนักงานขายท่านหนึ่งบอกว่าส่งให้ดีลเลอร์ร้านละสองคันจริงๆ)

"บลา บลา"

ทั้งนี้ทั้งนั้นโปรดใช้จักรยานก่อนตัดสินใจเชื่อด้วยนะครับ

ผมเองก็เก็บหอบรอบริบจะไปถอยเจ้านี่อยู่เหมือนกันแต่คงอีกสักพักใหญ่

ตอนนี้อาศัยเก็บข้อมูลประกอบการตัดสินไปเรื่อย

ภาพจาก Fanpage Honda Motorcycle Thailand

ข้อดีอย่างหนึ่งที่ชัดเจนมากเลยสำหรับผมถ้าไม่นับเรื่องความเท่ การออกแบบ อื่นๆแล้วเนี่ย

คือเรื่อง ความเหมาะสมกับการใช้งานในเมืองครับ

ด้วยความที่เจ้า MSX 125 เนี่ยคันเล็กมากๆ (พอๆ กับ KSR) ทำให้เวลามุดบนถนนคงไปได้อย่างรวดเร็ว

เรื่องประหยัดน้ำมัน อันนี้คงไม่ต้องห่วง รถหัวฉีดโดยเฉพาะกับ honda ด้วยแล้ว ประหยัดแน่นอน
จากที่เก็บข้อมูลมาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 60กม./ลิตร

ส่วนข้อเสียเท่าที่ได้เก็บข้อมูลมาคือ

เบรคหลังไม่ค่อยติด เห็นคนเป็นกันเยอะมาก ต้องถีบลึกๆ ถึงจะติด
รูเสียบกุญแจที่กากเหลือเกินประหนึ่งกุญแจล็อคเกอร์

เวลาถนนเปียกแล้วล้อหลังจะปัด พาดริฟเอาซะง่ายๆ

เวลาขี่ตอนฝนตกเหลือถนนมีน้ำขังเนี่ย น้ำจะพุ่งเข้าหน้าเลย เห็นเขาว่าเข้าหน้าจริงๆ

พุ่งขึ้นมาจากคอรถเลย ทะลุแฮนด์เข้าหน้า ประหนึ่งดูหนัง 4 มิติ

อันนี้คือปัญหาหลักๆ ที่ติดมากับรถ

ส่วนปัญหาหลักๆ ที่ตามมาคือ

พอจอดไว้ลับตาคนชอบมาเล่นรถ ก็คงพวกวัยรุ่น วันคะนองนั่นล่ะ

พวกขี้อิจฉาวางยา มีคนโดนเอาน้ำตาลใส่ไปในตรงที่เอาไว้ส่องน้ำมันเครื่อง

ผลปรากฏว่า บรรลัยจ้า 

คนพวกนี้จับได้น่าเอามือมันน่ะชุบน้ำตาลแล้วทิ่มไปในรังมดแดง

แต่ก็อย่าไปหยีหยากับปัญหามากมายนะครับ ทุกสิ่งในโลกไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบหรอก

อยู่ที่เราจะยอมรับได้มากแค่ไหน ส่วนผมเจอปัญหาน้ำพุ่งขึ้นหน้าเข้าไป ก็มีชะงักเหมือนกัน

เลยหันไปหาคันอื่นอย่างเช่น CBR 150 ที่ราคา(หลังจากที่ MSX 125 โดนปั่นแล้ว) ไม่ห่างกันมากนัก

แต่ก็ต้องแลกกับความคล่องตัวที่น้อยลงเพราะว่าคันใหญ่ขึ้น

ได้ยินว่ารถเล็กๆ แนวนี้อย่าง KSR เองก็เป็นนะครับน้ำพุ่งใส่หน้าเนี่ย

แฟนค่าย K เองก็แอบเหน็บนะครับว่าเจ้า MSX 125 เนี่ยไม่เห็นมีอะไรดีเลย สวยก็ไม่สวย

สติ๊กเกอร์ลวดลายก็ไม่มีสีจืดๆ ก็อปเขามาชัดๆ

จริงๆแล้วของแบบนี้ก็แล้วแต่มุมมองของคนนะครับ ไม่มีใครชอบอะไรเหมือนกันไปเสียทุกอย่างหรอก

ต่อให้เป็นคู่สามี ภรรยาแสนหวานก็เถอะ อีกอย่างทั้ง MSX 125 และ KSR เอง

ก็มีดีไซน์การออกแบบไปคนละทางกัน

สำหรับผม KSR จะออกแนว Motard ดูวิบากๆ นิดนึง เหมือน D-Tracker ย่อส่วน

ส่วน MSX 125 จะออกแนว Sport เท่ๆ

มองอย่างนี้แล้วกลุ่มลูกค้าคนละทางกันเลยนะ

แค่ MSX 125 ออกมาทีหลังแล้วก็เท่กว่า KSR เท่านั้นเอง

เดี๋ยวรอ KSR ปรับลุคใหม่อาจมีอะไรให้ตื่นเต้นกันอีกก็เป็นได้

ของแบบนี้บอกกันยากครับว่าก็อปรึเปล่า

อย่างคำถามง่ายๆ ว่า "Samsung ก็อป Apple รึเปล่า"

คำตอบก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน

เลือกใช้ที่เราชอบดีกว่าครับ

** Review เพิ่มเติม มีให้อ่านกันเต็มๆ ในนิตยสารนักเลงมอเตอร์ไซค์ฉบับเดือนพฤษภาคมด้วยนะ**