หลังจากที่ FZ-09
ตามรหัสในประเทศเราหรือในบางประเทศจะใช้รหัส MT-09 ซึ่งย่อมากจากคำว่า “Master of Torque”
หรือแปลไทยเกรียนว่า “มหาเมพแห่งแรงบิดพ่อทุกสถาบัน!!” ลงตีตลาดเสียกระเจิง
ด้วยดีไซน์สุดเท่เร้าใจ สมรรถนะในการขับขี่ขั้นสุด จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่
FZ-09 จะกลายเป็นโมเดลขายดีแห่งปี 2014
แน่นอนว่าความสำเร็จของ FZ-09
เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น
เพราะ Yamaha คงไม่ได้ออกแบบแปลนเครื่องยนต์สามสูบเรียงลูกนี้มาเพื่อใช้กับ FZ-09 แค่โมเดลเดียวเท่านั้น
เพราะ Yamaha คงไม่ได้ออกแบบแปลนเครื่องยนต์สามสูบเรียงลูกนี้มาเพื่อใช้กับ FZ-09 แค่โมเดลเดียวเท่านั้น
แต่ครั้งนี้ Yamaha นำเสนอความมันส์เร้าใจ
ที่มาพร้อมกับนุ่มยอดความนุ่มนวล
และพร้อมพรั่งด้วยความสามารถรอบด้าน ที่ถูกปรับปรุงและพัฒนามาตั้งแต่เปิดตัว FZ-09 ครั้งแรกในปี 2013
ก่อนวันทดสอบที่แคลิฟอร์เนียโดยทีมงานของ Cycle World ในงาน Press Launch มีฝนตกลงมาประปราย
แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยลดความกระตือรือล้นและความน่าสนใจในการดึงสมรรถนะของ FJ-09 ลงเลยสักนิด
อย่างแรกที่อยากจะบอกเลยคือ Yamaha FJ-09 ดึงเอาเครื่องยนต์
847 ซีซี สามสูบเรียงครอสเพลน มาใช้ได้อย่างสุดยอด
สิ่งเดียวที่ต่างออกไปคือ รูปแบบการตอบสนองของคันเร่งใน D-Mode ที่เป็นเอกลักษณ์
ระบบการจ่ายน้ำมันใน 2015 FJ-09 ดูเหมือนจะเฉียบคมขึ้นในทั้ง 3 โหมดการขับขี่
ระบบการจ่ายน้ำมันใน 2015 FJ-09 ดูเหมือนจะเฉียบคมขึ้นในทั้ง 3 โหมดการขับขี่
นอกจากระบบจ่ายน้ำมันแล้ว เทคโนโลยีที่ใส่มาใน FJ-09 อย่าง Traction Control เองก็ดูเหมือนจะถูกพัฒนาขึ้นด้วยเช่นกัน
Traction Control นั้นถูกติดตั้งมาพร้อมกับระบบเบรค
ABS ซึ่งทาง Yamaha จะบังคับให้เปิดใช้งานอยู่ตลอด
ในขณะที่ TC นั้นจะปิดได้ก็ต่อเมื่อจอดรถอยู่เท่านั้น
แต่ข้อควรระวังคืออย่าทำอะไรบ้าๆ เด็ดขาด
เจ้านี่ยังคงพกวิชายกล้อตอนเตะเกียร์สามแบบไม่ใช้คลัทช์เอาไว้ ซึ่งนั้นหมายความว่า
รถคันนี้ยังคงความบ้าบิ่น และทรงพลังสุดๆ เอาไว้ แต่ที่สบายหายห่วงก็คือ
ระบบทั้ง TC และ ABS นั้นทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมไม่ว่าจะบนพื้นถนนจะลื่นหรือชื้นแค่ไหนก็ตาม
เฟรมตัวถังของ FJ-09 ยังคงใช้แบบเดียวกับ
FZ-09 ทั้งหมด
เว้นแต่ระบบกันสะเทือนหน้าหรือโช้คหน้าที่สูงขึ้น
สปริงโช้คหน้าที่นุ่มนวลกว่า แล้วก็องศา Rake ที่ต่างกันเล็กน้อย (ซึ่งทาง Yamaha ยังไม่ให้คำตอบในเรื่องนี้)
ซึ่งสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยนี้ทำให้ FJ-09 นั้นมีทั้งความเสถียรและคล่องตัวแบบสุดๆ
พร้อมด้วยยาง Dunlop Sportmax D222 Roadmaster II ที่ทาง Yamaha บอกว่าใช้งานได้ยาวนาน
อีกสิ่งหนึ่งที่ FJ-09 ยังคงหยิบเอามาจาก FZ-09 ก็คือโช้คจาก KYB แต่ว่าค่ายืดยุบของโช้คถูกปรับให้สูงขึ้น
สำหรับจากใช้งานแบบสุดขั้วและการขับขี่ที่ดีเยี่ยม
อย่าคิดว่าเจ้านี่ไม่มีของใหม่ใส่เข้ามาเลย FJ-09 นั้นมีซัปเฟรมใหม่ขนาด 5.1 นิ้วซึ่งยาวกว่า FZ-09
เพื่อพื้นที่ที่มากขึ้นสำหรับเบาะนั่งแบบสองตอน และพื้นที่แร็คกล่องข้างขนาด 9.8
แกลลอนกับกล่องหลังที่สั่งซื้อได้จากศูนย์
แม่งกล่องข้างเบิกศูนย์จะมีขนาดที่พอเหมาะ แต่ก็ไม่ใหญ่สำหรับใส่หมวกกันน็อคแบบเต็มใบ
FJ-09 มีตำแหน่งเบาะนั่งอยู่ที่ 33.3
นิ้วสูงกว่า FZ-09 อยู่ 1.2 นิ้วถ้วน
แต่กลับให้ความรู้สึกตอนคร่อมจริงที่มากกว่านั้น
เนื่องจากถังน้ำมันขนาดใหญ่และกว้างกว่าเดิม
ถังน้ำมันขนาด 4.8 แกลลอนที่ใหญ่กว่า FZ-09 ถึง 1.1 แกลลอน
ด้วยขนาดถังที่กว้างขึ้นทำให้เข่าคุณต้องกางออกมากอีกนิด
แต่ยังถือว่าแคบกว่ารถแนว Sport-Touring และ Adventure คันอื่นๆ
ชิลด์หน้าติดรถปรับความสูงได้อีก 1.2
นิ้วโดยใช้มือซึ่งช่วยบังฝนไม่ให้ตกใส่หน้าอกหรือลมมาปะทะแรงๆ
FJ-09 นั้นมีการ์ดแฮนด์ติดรถมาตั้งแต่ออกจากโรงงงาน
แต่ก็ยังมีของแต่งอีกมากมายกว่า 30 รายการให้คุณได้เลือกใส่กัน
เรือนไมล์หรือแดชบอร์ดแบบใหม่ก็มีมาตรวัดค่าต่างๆ ครบถ้วน
รวมถึงตัวบอกอุณหภูมิ Heat
Grip หรือแฮนด์อุ่นซึ่งต้องเสียเงินซื้อเพิ่ม
วิธ๊การสั่งการก็ง่ายๆ คล้ายกับ FJR1300 และยังมีช่องจุดบุหรี่สำหรับจ่ายไฟออกภายนอกที่ด้านซ้ายที่ต้องซื้ออุปกรณ์เชื่อมต่อเพิ่ม
FJ-09 มีมาให้เลือก 2 สีคือเทาด้านและแดงในราคา 10,490 เหรียญสหรัฐ พร้อมด้วยขาตั้งกลางติดรถ สมรรถนะเกินคาดคิด
ความนุ่มนวล และราคาที่น่าโดนเป็นที่สุด
วิธ๊การสั่งการก็ง่ายๆ คล้ายกับ FJR1300 และยังมีช่องจุดบุหรี่สำหรับจ่ายไฟออกภายนอกที่ด้านซ้ายที่ต้องซื้ออุปกรณ์เชื่อมต่อเพิ่ม
FJ-09 มีมาให้เลือก 2 สีคือเทาด้านและแดงในราคา 10,490 เหรียญสหรัฐ พร้อมด้วยขาตั้งกลางติดรถ สมรรถนะเกินคาดคิด
ความนุ่มนวล และราคาที่น่าโดนเป็นที่สุด
ที่มา: Cycle World