Advertisement

20.7.14

เอาชนะตัวเอง หรือ เอาชนะคนอื่น


บล็อคสุดท้ายที่อัพก็พร้อมกับอัพเดต Wix ตั้งแต่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา นานจัง
ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นหลายอย่างในชีวิต คุณเองก็คงเช่นกัน
มีอย่างหนึ่งที่ผมควรจะทำ ซึ่งควรจะเริ่มทำตั้งแต่ Wix เสร็จคือ "หางานใหม่"
เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากหางานใหม่บ่อยๆ หรอก โดยเฉพาะคนที่มีภาระหนี้สิน
ผมเองก็เช่นกัน
เห็นคนแชร์บ่อยๆ ในเฟสบุ้คว่ากรุ๊ปเลือด "เอ" เป็นพวกที่ไม่ชอบความเปลี่ยนแปลง

ผมในฐานะคนกรุ๊ปเอคงต้องบอกว่า "จริงครับ"
ก่อนหน้าที่จะมาทำงานอยู่ในบริษัทปัจจุบัน ก็ออกจากงานมาหลังจากที่เพิ่งทำได้เพียงหนึ่งเดือน
สาเหตุก็คือไม่สนุกและน่าเบื่อ
แน่นอนว่าเงินเป็นปัจจัยสำคัญ แต่ผมเชื่อว่าไม่มีใครอยากแค่ทำงานเพื่อได้เงินไปวันๆ หรอก
ผมเชื่ออย่างนั้นจริงๆ
งานที่ไม่ได้เกิดจากความชื่นชอบ ความหลงใหล หรือPassion (แหม ดัดจริต)
คงเป็นงานที่ซังกะตาย แต่หลายคนก็ไม่มีทางเลือก
ทีนี้ผมจึงหางานใหม่ โดยยึดความหลงใหล้ในตัวหนังสือ และความชื่นชอบในมอเตอร์ไซด์เป็นหลัก
และให้สัญญากับตัวเองไว้ว่าไม่ว่าออฟฟิศใหม่ที่เข้าไปจะดีหรือเหี้ยแค่ไหน
ก็จะอยู่แค่ ปีเดียว

คิดเอาเองตามประสาคนเพิ่งเข้าวงการมนุษย์ออฟฟิศว่าคงม่ไมีออฟฟิศไหนดีเลิศไปเสียทุกอย่าง
ออฟฟิศผมก็เช่นกัน แม้ทีมทำงานที่อยู่ด้วยจะสุดยอด น่ารัก เป็นกันเอง เฮฮา
แต่ก็ย่อมมีปัจจัยอื่นที่สร้างคลื่นในบึงน้ำที่นิ่งสงบได้เสมอ
บางทีก็แค่คลื่น บางคราก็พายุ บางครั้งหนักถึงขนาดน้ำวน หนักๆ ก็มีทอร์นาโดหอบคนหายไป
ทิ้งให้คนที่เหลือผจญคลื่นลมต่อไป
สารภาพว่าเคยจะถอดใจสละเรือก็หลายครั้งแต่ด้วยสัจจะที่ให้กับตัวเองเอาไว้
เลยตัดสินใจมองไปยังความสนุกที่รออยู่เบื้องหน้า
ผมบอกกับพี่ช่างภาพเสมอว่าผมเป็นพวกทำงานบนพื้นฐาน "ความสนุก"
ถ้าทำงานแล้วไม่สนุก ก็คงรู้สึกแย่และงานที่สร้างขึ้นคงไร้ชีวิตชีวาแน่ๆ

แต่หลังจากทำงานจนครบปีก็ยังไม่ตัดสินใจลาออกสักที
เหตุผลที่ให้กับตัวเองคือ ยังไม่มีคนมาแทน
ที่ออฟฟิศยังหาคนเพิ่มไม่ได้สักที แล้วเราก็มองว่าถ้ายังอยู่ต่อไป ก็มีแต่สิ่งดีๆ สิทธิดีๆ
สิทธิพิเศษที่คนหาเช้ากินค่ำฐานะปานกลางค่อนมาล่างๆ คงหาได้ยาก
จุดนี้ล่ะที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราเริ่ม "หลง"
หลงแบบที่คนทำอาชีพนี้บางคนหรือหลายคนคงเป็นกัน
เอาว่ะลองอยู่ต่ออีกสักพักก็ได้ เราบอกกับตัวเอง

เท้าความตั้งไกลมาเข้าเรื่องสักที
ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนกับเรากำลังถอยออกห่างจรวดของเราออกมา
สถานการณ์ค่อนข้างนิ่ง จรวดดีดตัวคงยังไม่จำเป็นต้องใช้
จนวันหนึ่งเราก็โดนตำหนิด้วยความรู้สึกที่ว่าเป็นการตำหนิที่มีมูลเหตุเจืออยู่น้อย
หลายคนในทีมก็โดน
ท้ายสุดก็มีบทลงโทษเกิดขึ้น บทลงโทษที่เหมือนเป็นตัวจุดชนวนจรวดของเรา
แต่ด้วยความคิดตอนนั้น
เรากำลังโดนดูถูก เราอยากเอาชนะ เราอยากลบคำสบประมาท
ผมเกลียดมากเวลาที่มีใครมาบอกว่าเราไม่เต็มที่กับงาน
จริงอยู่ที่มีคนวัดแค่ผลงานที่ออกมาโดยไม่สนใจขั้นตอนหรือวิธีการ
โชคดีที่ผมไม่ใช่คนโลกแคบแบบนั้น
ถ้าเป็นผม ผมจะตั้งคำถามว่าทำไมถึงไม่ดีล่ะ เพราะอะไร เหตุคืออะไร คนทำคิดอะไรอยู่
แบบเดียวกับที่ผมตั้งคำถามกับคู่แข่งในสายงาน
มีคนเชียร์ให้ผมเอาชนะเพื่อพิสูจน์ตัวเอง
แต่ก็มีคนบอกว่า พอมึงทำได้ทีนี้มึงก็จะถอยออกมายาก มึงกำลังยืดเวลาให้ตัวเองเฉยๆ
คนที่บอกก็คือคนที่เชียร์ให้ผมดีดตัวออกจากยานที่สวยแต่รูปมาแต่ไหนแต่ไร

เรารู้ตัวเองอยู่แล้วว่าเราตั้งใจทำงานแค่ไหน
เราให้ค่ากับงานที่ทำมากแค่ไหน
เราทุ่มเทแค่ไหน
เราทำอะไรเรารู้ตัวเองอยู่
เราไม่เห็นต้องสนคำพูดคนอื่นเลยสักนิด
"เราไม่เห็นต้องสนใจหรือให้ค่าคนที่เขาไม่เห็นค่าในตัวเรา"
ฟังดูเป็นประโยครักน้ำเน่า แต่จะว่าไปก็จริง

ที่นี้ก็ประจวบเหมาะมีคนจุดชนวนจรวดให้เราแล้วหลังจากเก้ๆ กังๆ มานาน
เราก็มานั่งสำรวจความพร้อมหลายๆ อย่าง
เอาล่ะเราออกมาอยู่เปล่าๆ ได้หนึ่งเดือนบวกพอมีเงินเหลือสำหรับเดือนถัดไป
ดังนั้นจังหวะนี่ล่ะเหมาะที่สุดแล้วสำหรับการเปลี่ยนงานอย่างที่เราตั้งใจเอาไว้

ตอนนี้ก็ใกล้เวลาที่จรวดก็ออกตัวแล้ว
แต่บอกได้เลยว่าไม่ง่าย
มีความกดดัน มีรังสีแปลกๆ เจือด้วยความห่วงใยในทีมของเราอยู่บ้าง
ไหนจะแอนดรอยที่พยายามจะคุกคามจรวดเพื่อไม่ให้ดีดตัวไปได้สวยงามอย่างที่ตั้งใจ

แค่ตอนนี้ที่ผมตัดสินใจทำตามคำพูดของตัวเองโดยไม่ยึดอารมณ์ที่อยากเอาชนะเป็นที่ตั้ง
ผมว่าก็คงโอเคอยู่
ไม่รู้เหมือนกันว่าสุดท้ายจะดีดตัวออกมาได้อย่างสะบักสะบอมแค่ไหน
อย่างน้อยเราก็ได้เอาชนะความอยากเอาชนะของตัวเองและทำตามทำพูดที่ให้ไว้กับตัวเองได้เสียที

ทำได้โดยไม่ต้องแคร์อะไรหรือใครหน้าไหนเว้นแต่เงินในกระเป๋าและภาระหลักหมื่นต่อเดือน
ฮือออ ออ พูดแล้วเศร้ากินข้าวคลุกน้ำตาแพพ